สมาคมทันตกรรมหัตถการ (ประเทศไทย) Association of Operative Dentistry (Thailand) (ต่อไปนี้เรียกว่า “เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบและทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่าน เช่น การออกใบเสร็จรับเงินให้กับสมาชิก การตรวจสอบการโอนเงิน
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น
(1) เพื่อให้เราสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินงานของเราได้ เช่น การบริหาร จัดการ และพัฒนาการดำเนินงานภายในองค์กร การวิเคราะห์และพัฒนากิจกรรมต่างๆ ของเรา (ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเราด้วย) การบริหารจัดการความสัมพันธ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องการบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ
(2) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของเรา การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
(3) เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ และวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) เช่น การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ ไดเร็กเมล์
(4) เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ เช่น การจัดทำเนียบสมาชิก
(5) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฏระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
1.4 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
1.5 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(1) เพื่อให้เรา ส่งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมล
(2) เพื่อให้เราดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราว ๆ ไป
ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4
2.1 เมื่อท่านร่วมบริจาคกับเรา เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชน อีเมล ข้อมูลการสมัครสมาชิก การสมัครประชุมวิชาการ
2.2 เมื่อท่านสมัครใจให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรากรณีที่เราร้องขอ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม ต่างๆ เราจะเก็บข้อมูล ส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ หน่วยงาน บริษัท ข้อมูลการสมัครสมาชิก การสมัครประชุมวิชาการ
2.3 เมื่อท่านติดต่อเรา หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับเรา เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ประวัติการร่วมกิจกรรมในครั้งก่อนๆ ภาพถ่ายในแต่ ละกิจกรรม
2.4 ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
4.1 ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอน ความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับเราได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว ทั้งนี้ ท่านสามารถถอนความยินยอม กับเราได้โดยติดต่อ e-mail: thaioperdent@gmail.com
4.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
4.3 หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้เราทราบเพื่อให้เราสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
5.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคล แต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) หรือมากกว่า 10 ปี เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อ 4 หากได้รับการยินยอมจากท่าน
5.2 เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
5.3 กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี เราจะยัง เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึก เป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่าน ในอนาคตได้
6.1 เราเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
(1) บุคคลและนิติบุคคล เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ หน่วยงานของรัฐ (เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
6.2 บุคคลที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ตามข้อ 6.1 อาจมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แยกต่างหากจากเรา โดยท่านสามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวได้ตามที่บุคคลนั้น ๆ ประกาศ
6.3 เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
6.4 เราไม่มีนโยบายในการการส่งต่อหรืออนุญาตให้นำข้อมูลของท่านไปใช้งานนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในนโยบายของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต
6.5 กรณีหน่วยงานที่เราให้การสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ขององค์กร ต้องการขอทรายรายละเอียดของท่านเพื่อดำเนินการโครงการด้านการประชาสัมพันธ์หรือดำเนินการโครงการระดมเงินบริจาค หน่วยงานจะต้องส่งหนังสือขอทราบข้อมูลพร้อมรายละเอียดการนำไปใช้ที่ไม่ขัดกับนโยบายขององค์กรเข้ามายังสมาคม ฯ เพื่อพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
6.6 เราอาจส่งข้อมูลของท่านให้กับหน่วยงานของรัฐตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น หมายศาล คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล ปปช. และ ปปง. เป็นต้น
7.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัย ทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือ การเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดย ใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคล ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 เราจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
8.1 ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
(1) ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(2) ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(3) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(4) คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
(5) ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymous)
(6) ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้ รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.2 ท่านสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้โดยติดต่อ e-mail: thaioperdent@gmail.com (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)
9.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: ภาควิชาทันตกรรมหัตถการ และวิทยาเอ็นโดดอนต์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา ชั้น 14 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 6 ถนนโยธี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10410 โทรศัพท์ 0-2200-7825-6 โทรสาร 0-2200-7824
9.2 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ e-mail : thaioperdent@gmail.com